คุณพีรณัฐ ลาภปรารถนา
ทายาทธุรกิจ Health Land กรุ๊ป

“เราลงทุนไป ก็หวังผลตอบแทน แต่ก็ต้องสมดุลกับความเสี่ยงที่ต้องแบกรับด้วย”
กับ Global ETF +34.26%
#รีวิวJittaWealth
กระจายความเสี่ยงให้พอร์ต สร้างสมดุลด้วย Global ETF
ต้องยอมรับว่าคริปโทเคอร์เรนซีถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยดึงคนให้เข้าสู่โลกการลงทุนได้ง่ายจากกระแสที่จุดติดได้ในช่วงเกือบสิบปีที่ผ่านมา หากแต่นักลงทุนเองที่จะเรียนรู้และเลือกหลักการลงทุนให้เหมาะสมกับตัวเองได้ ก็จะทำให้ยืนอยู่ในตลาดลงทุนได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว เช่นเดียวกับคุณพีรณัฐ ลาภปรารถนา เจนเนอเรชั่นที่ 2 ของกลุ่ม Health Land ที่เข้าสู่การลงทุนด้วยคริปโทเคอเรนซี่เป็นอย่างแรก แต่เมื่อเริ่มตระหนักถึงความสำคัญในการกระจายความเสี่ยง จึงหันมาลงทุนใน Global ETF ที่แม้ว่าผลตอบแทนจะไม่หวือหวา แต่ก็สร้างผลตอบแทนให้ถึง +34.26% (3 พ.ย. 63 – 29 เม.ย. 68)
ก่อนจะมาช่วยธุรกิจครอบครัว คุณพีรณัฐเรียนจบปริญญาตรีทางด้าน IT และเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการเป็น Consult บริษัท IT และงานด้าน Project Management และนำความรู้ที่ได้กลับมาดูแลงานระบบไอทีของธุรกิจครอบครัว ด้วยความที่เติบโตมาในสายนี้ทำให้มีความเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นอย่างดี ในช่วง 5 ปีก่อนที่เทรนด์ของคริปโทฯ มาแรง เขาจึงเข้าสู่การลงทุนในคริปโทฯ ไม่ยากนัก
“จริงๆ ผมเริ่มลงทุนค่อนข้างช้า ประมาณช่วงอายุ 26 ปี เพราะตอนเป็นเด็กก็ไม่ได้คิดเรื่องลงทุน จนมาเรียนปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ ก็ได้เรียนเรื่องการเงินการลงทุน จึงเห็นความสำคัญของการลงทุน และอยากวางแผนต่อยอดให้เงินทำงาน ก็เริ่มด้วยคริปโทฯ เพราะตอนนั้นกำลังเป็นเทรนด์ เราพอจะรู้จักเรื่องหุ้นอยู่บ้าง แต่รู้สึกว่าเรายังไม่เข้าใจมันขนาดนั้น แต่คริปโทฯ ตอนนั้นใกล้ตัวเรามากกว่า เพราะเราเรียนไอที มีความเข้าใจเรื่องบล็อกเชน ประกอบกับมีเพื่อนที่เป็นนักลงทุนคริปโทฯ โดยเฉพาะมาสอนและด้วยอายุที่ยังไม่เยอะ ก็ยังสามารถรับความเสี่ยงได้ เราก็เลยเริ่มจากตรงนั้น”
เริ่มต้นถนน VI ด้วยคริปโทเคอร์เรนซี
ขณะเดียวกัน เขาก็ได้เรียนรู้ว่าการลงทุนระยะยาวดีกว่าการซื้อขายรายวันหรือ Day trade แนวทางการลงทุนของคุณพีรณัฐจึงเน้นซื้ออย่างเดียวไม่ขายเลย เรียกว่าเป็น ‘Long Term Investor’ แล้วซื้อเก็บหรือ DCA ไปเรื่อยๆ ทั้งที่ตอนนั้นก็ไม่ได้รู้จักว่า Value Investor หรือ DCA คืออะไร
“เรารู้แค่ว่าคริปโทฯ ยังไงก็ต้องเติบโตแน่ๆ ก็ไม่คิดจะขายเพราะเราไม่ได้ต้องการเงินในระยะสั้น พอเห็นราคาลงก็ซื้อเก็บไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้ใช้เงินเยอะ แต่เก็บมาเรื่อยๆ มีลองผิดลองถูกขายออกไปบ้าง ช่วงราคาพุ่งไปแรง ก็ทำกำไรบ้าง แต่พอเห็นว่ามูลค่ามันกลับโตขึ้นไปอีก ก็ได้เรียนรู้ว่าเราควรลงทุนระยะยาว ไม่ใช่ขายเอากำไรระยะสั้น
ระยะหลังจึงเน้นถือยาวๆ เพราะเมื่อเราก็มีรายได้ทางอื่นอยู่ ไม่จำเป็นต้องรีบขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น”
เมื่อค้นพบเส้นทางสาย VI จากการเรียนรู้ด้วยตัวเองแล้ว คุณพีรณัฐ ก็ได้มีโอกาสฟังพี่อ้อ พรทิพย์ กองชุน CGO ของ Jitta Wealth ที่ได้มาเป็น Speaker ให้ความรู้ที่ศศินทร์ มหาวิทยาลัยที่เขาเรียนปริญญาโทอยู่ในตอนนั้น จึงเป็นที่มาที่ทำให้ได้รู้จัก Jitta Wealth และเขาก็มาศึกษาเพิ่มเติมในภายหลัง และตัดสินใจเปิด Global ETF เป็นพอร์ตแรก
เมื่อได้ฟังความรู้จากพี่อ้อ ก็เริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงของการลงทุนในคริปโทฯ ที่เขาไม่ควรพึ่งพิงให้เป็นพอร์ตหลักตลอดไป แต่ควรกระจายสินทรัพย์การลงทุนให้หลากหลายขึ้น ซึ่งผลตอบแทนคาดหวังของ Global ETF ที่ระดับ 8-10% ถือว่าเป็นระดับที่รับได้ เมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่ไม่ได้สูงมากนัก เพราะมีการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย ทั้งหุ้นและตราสารหนี้ทั่วโลก และมีการปรับพอร์ตอัตโนมัติ
“ผลตอบแทน 8% ก็โอเคสำหรับเรา แม้ตัวเลข 8% จะไม่หวือหวาเท่าลงทุนในคริปโทฯ แต่อย่างน้อยก็ไม่เสี่ยงเท่าคริปโทฯ ที่ถึงแม้จะมีความเข้าใจ แต่เราก็ไม่รู้เลยว่าอนาคตจะไปยังไงต่อ และอาจจะไม่ค่อยมั่นคงเท่าหุ้นที่มีธุรกิจรองรับจริงๆ เพราะเราลงทุนไปเราก็หวังผลตอบแทน แต่ก็ต้องสมดุลกับความเสี่ยงที่เราต้องแบกรับด้วย”
ระยะหลังคุณพีรณัฐยังกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์อื่นๆ ด้วย เช่น Thematic DIY ไปลงทุนหุ้นสหรัฐฯ รายตัวและอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า
เป้าหมายชัด…ลงทุนระยะยาว
เมื่อถามถึงเป้าหมายการลงทุน คุณพีรณัฐมองเพียงว่า ต้องการเห็นสินทรัพย์งอกเงยมากขึ้น สร้างความมั่งคั่งและอิสรภาพทางการเงิน ด้วยการให้เงินทำงานแบบ Passive Income ควบคู่กับการสร้างรายได้แบบ Active Income ที่เขายังคงทำหน้าที่ในตำแหน่งงานที่รับผิดชอบต่อไป ดังนั้นรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมคือการลงทุนระยะยาว ไม่เสียเวลาเฝ้าพอร์ต เพราะโดยส่วนตัวเขาไม่ได้ต้องการนำเงินออกมาใช้เร็วๆ นี้ส่วนการเติมพอร์ตนั้น เขาจะจัดสรรเงินในแต่ละเดือนหลังทำบัญชีสินทรัพย์ แล้วนำไปกระจายลงในแต่ละพอร์ตไม่เท่ากัน พิจารณาจากแนวโน้มการเติบโตของพอร์ตและรายได้ที่เข้ามา
เพราะเน้นการลงทุนระยะยาวจริงๆ และเงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินเย็นที่ไม่ได้นำออกมาใช้ คุณพีรณัฐจึงเปิดดูพอร์ตไม่บ่อยนัก หรือแค่เดือนละ 2 ครั้งโดยประมาณ ซึ่งตลอด 4 ปีเศษ ที่ลงทุนใน Global ETF ผลตอบแทนที่ได้ค่อนข้างโอเค แม้กระทั่งจะอ่อนตัวลงไปบ้างในช่วงปีนี้ หลังจากมีการเปลี่ยนประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ตลาดผันผวนหนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขามีความรู้สึกใดๆ แค่มองเป็นภาพรวมว่าแนวโน้มเศรษฐกิจอาจจะไม่ค่อยดีต่อธุรกิจ และจำเป็นต้องระมัดระวังความเสี่ยงทางเศรษฐกิจให้มากขึ้น
“อย่างเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ตลาดเกิดแพนิก ก็เปิดพอร์ตดูเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะเราไม่หวังขายหรือคัทลอสเพราะไม่ได้คิดจะนำเงินออกมาใช้อยู่แล้ว เราก็รู้ว่าเป็นเวลาที่ดีที่จะซื้อเพิ่มเมื่อมีเงิน ในทุกๆ สินทรัพย์เราไม่ได้ดูเป็นรายปี ดูเป็นระยะยาว หากลงก็เก็บ ขึ้นก็ไม่ขาย เราเน้นลงทุนระยะยาว”
ในฐานะที่คุณพีรณัฐเชื่อมั่นในการลงทุนระยะยาว เขายังฝากถึงเพื่อนนักลงทุนที่อยู่ระหว่างค้นหาตัวเองว่า ไม่ว่าจะลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็แล้วแต่ ไม่แนะนำให้ หวังกำไรระยะสั้น แต่อยากให้ศึกษาการลงทุนหลายๆ ทางไว้ให้มาก เมื่อเราเติบโต มีเงินเยอะขึ้น เราก็ต้องมาจัดสรรว่าเงินจะเอาไปลงในสินทรัพย์ใดได้บ้าง ขณะเดียวกันก็มองหาช่องทางทำรายได้มากขึ้นทั้ง Active และ Passive income
เมื่อถามถึงเป้าหมายการลงทุน คุณพีรณัฐมองเพียงว่า ต้องการเห็นสินทรัพย์งอกเงยมากขึ้น สร้างความมั่งคั่งและอิสรภาพทางการเงิน ด้วยการให้เงินทำงานแบบ Passive Income ควบคู่กับการสร้างรายได้แบบ Active Income ที่เขายังคงทำหน้าที่ในตำแหน่งงานที่รับผิดชอบต่อไป ดังนั้นรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมคือการลงทุนระยะยาว ไม่เสียเวลาเฝ้าพอร์ต เพราะโดยส่วนตัวเขาไม่ได้ต้องการนำเงินออกมาใช้เร็วๆ นี้ส่วนการเติมพอร์ตนั้น เขาจะจัดสรรเงินในแต่ละเดือนหลังทำบัญชีสินทรัพย์ แล้วนำไปกระจายลงในแต่ละพอร์ตไม่เท่ากัน พิจารณาจากแนวโน้มการเติบโตของพอร์ตและรายได้ที่เข้ามา
เพราะเน้นการลงทุนระยะยาวจริงๆ และเงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินเย็นที่ไม่ได้นำออกมาใช้ คุณพีรณัฐจึงเปิดดูพอร์ตไม่บ่อยนัก หรือแค่เดือนละ 2 ครั้งโดยประมาณ ซึ่งตลอด 4 ปีเศษ ที่ลงทุนใน Global ETF ผลตอบแทนที่ได้ค่อนข้างโอเค แม้กระทั่งจะอ่อนตัวลงไปบ้างในช่วงปีนี้ หลังจากมีการเปลี่ยนประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ตลาดผันผวนหนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขามีความรู้สึกใดๆ แค่มองเป็นภาพรวมว่าแนวโน้มเศรษฐกิจอาจจะไม่ค่อยดีต่อธุรกิจ และจำเป็นต้องระมัดระวังความเสี่ยงทางเศรษฐกิจให้มากขึ้น
“อย่างเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ตลาดเกิดแพนิก ก็เปิดพอร์ตดูเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะเราไม่หวังขายหรือคัทลอสเพราะไม่ได้คิดจะนำเงินออกมาใช้อยู่แล้ว เราก็รู้ว่าเป็นเวลาที่ดีที่จะซื้อเพิ่มเมื่อมีเงิน ในทุกๆ สินทรัพย์เราไม่ได้ดูเป็นรายปี ดูเป็นระยะยาว หากลงก็เก็บ ขึ้นก็ไม่ขาย เราเน้นลงทุนระยะยาว”
ในฐานะที่คุณพีรณัฐเชื่อมั่นในการลงทุนระยะยาว เขายังฝากถึงเพื่อนนักลงทุนที่อยู่ระหว่างค้นหาตัวเองว่า ไม่ว่าจะลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็แล้วแต่ ไม่แนะนำให้ หวังกำไรระยะสั้น แต่อยากให้ศึกษาการลงทุนหลายๆ ทางไว้ให้มาก เมื่อเราเติบโต มีเงินเยอะขึ้น เราก็ต้องมาจัดสรรว่าเงินจะเอาไปลงในสินทรัพย์ใดได้บ้าง ขณะเดียวกันก็มองหาช่องทางทำรายได้มากขึ้นทั้ง Active และ Passive income
เมื่อถามถึงเป้าหมายการลงทุน คุณพีรณัฐมองเพียงว่า ต้องการเห็นสินทรัพย์งอกเงยมากขึ้น สร้างความมั่งคั่งและอิสรภาพทางการเงิน ด้วยการให้เงินทำงานแบบ Passive Income ควบคู่กับการสร้างรายได้แบบ Active Income ที่เขายังคงทำหน้าที่ในตำแหน่งงานที่รับผิดชอบต่อไป ดังนั้นรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมคือการลงทุนระยะยาว ไม่เสียเวลาเฝ้าพอร์ต เพราะโดยส่วนตัวเขาไม่ได้ต้องการนำเงินออกมาใช้เร็วๆ นี้ส่วนการเติมพอร์ตนั้น เขาจะจัดสรรเงินในแต่ละเดือนหลังทำบัญชีสินทรัพย์ แล้วนำไปกระจายลงในแต่ละพอร์ตไม่เท่ากัน พิจารณาจากแนวโน้มการเติบโตของพอร์ตและรายได้ที่เข้ามา
เพราะเน้นการลงทุนระยะยาวจริงๆ และเงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินเย็นที่ไม่ได้นำออกมาใช้ คุณพีรณัฐจึงเปิดดูพอร์ตไม่บ่อยนัก หรือแค่เดือนละ 2 ครั้งโดยประมาณ ซึ่งตลอด 4 ปีเศษ ที่ลงทุนใน Global ETF ผลตอบแทนที่ได้ค่อนข้างโอเค แม้กระทั่งจะอ่อนตัวลงไปบ้างในช่วงปีนี้ หลังจากมีการเปลี่ยนประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ตลาดผันผวนหนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขามีความรู้สึกใดๆ แค่มองเป็นภาพรวมว่าแนวโน้มเศรษฐกิจอาจจะไม่ค่อยดีต่อธุรกิจ และจำเป็นต้องระมัดระวังความเสี่ยงทางเศรษฐกิจให้มากขึ้น
“อย่างเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ตลาดเกิดแพนิก ก็เปิดพอร์ตดูเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะเราไม่หวังขายหรือคัทลอสเพราะไม่ได้คิดจะนำเงินออกมาใช้อยู่แล้ว เราก็รู้ว่าเป็นเวลาที่ดีที่จะซื้อเพิ่มเมื่อมีเงิน ในทุกๆ สินทรัพย์เราไม่ได้ดูเป็นรายปี ดูเป็นระยะยาว หากลงก็เก็บ ขึ้นก็ไม่ขาย เราเน้นลงทุนระยะยาว”
ในฐานะที่คุณพีรณัฐเชื่อมั่นในการลงทุนระยะยาว เขายังฝากถึงเพื่อนนักลงทุนที่อยู่ระหว่างค้นหาตัวเองว่า ไม่ว่าจะลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็แล้วแต่ ไม่แนะนำให้ หวังกำไรระยะสั้น แต่อยากให้ศึกษาการลงทุนหลายๆ ทางไว้ให้มาก เมื่อเราเติบโต มีเงินเยอะขึ้น เราก็ต้องมาจัดสรรว่าเงินจะเอาไปลงในสินทรัพย์ใดได้บ้าง ขณะเดียวกันก็มองหาช่องทางทำรายได้มากขึ้นทั้ง Active และ Passive income
เมื่อถามถึงเป้าหมายการลงทุน คุณพีรณัฐมองเพียงว่า ต้องการเห็นสินทรัพย์งอกเงยมากขึ้น สร้างความมั่งคั่งและอิสรภาพทางการเงิน ด้วยการให้เงินทำงานแบบ Passive Income ควบคู่กับการสร้างรายได้แบบ Active Income ที่เขายังคงทำหน้าที่ในตำแหน่งงานที่รับผิดชอบต่อไป ดังนั้นรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมคือการลงทุนระยะยาว ไม่เสียเวลาเฝ้าพอร์ต เพราะโดยส่วนตัวเขาไม่ได้ต้องการนำเงินออกมาใช้เร็วๆ นี้ส่วนการเติมพอร์ตนั้น เขาจะจัดสรรเงินในแต่ละเดือนหลังทำบัญชีสินทรัพย์ แล้วนำไปกระจายลงในแต่ละพอร์ตไม่เท่ากัน พิจารณาจากแนวโน้มการเติบโตของพอร์ตและรายได้ที่เข้ามา
เพราะเน้นการลงทุนระยะยาวจริงๆ และเงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินเย็นที่ไม่ได้นำออกมาใช้ คุณพีรณัฐจึงเปิดดูพอร์ตไม่บ่อยนัก หรือแค่เดือนละ 2 ครั้งโดยประมาณ ซึ่งตลอด 4 ปีเศษ ที่ลงทุนใน Global ETF ผลตอบแทนที่ได้ค่อนข้างโอเค แม้กระทั่งจะอ่อนตัวลงไปบ้างในช่วงปีนี้ หลังจากมีการเปลี่ยนประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ตลาดผันผวนหนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขามีความรู้สึกใดๆ แค่มองเป็นภาพรวมว่าแนวโน้มเศรษฐกิจอาจจะไม่ค่อยดีต่อธุรกิจ และจำเป็นต้องระมัดระวังความเสี่ยงทางเศรษฐกิจให้มากขึ้น
“อย่างเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ตลาดเกิดแพนิก ก็เปิดพอร์ตดูเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะเราไม่หวังขายหรือคัทลอสเพราะไม่ได้คิดจะนำเงินออกมาใช้อยู่แล้ว เราก็รู้ว่าเป็นเวลาที่ดีที่จะซื้อเพิ่มเมื่อมีเงิน ในทุกๆ สินทรัพย์เราไม่ได้ดูเป็นรายปี ดูเป็นระยะยาว หากลงก็เก็บ ขึ้นก็ไม่ขาย เราเน้นลงทุนระยะยาว”
ในฐานะที่คุณพีรณัฐเชื่อมั่นในการลงทุนระยะยาว เขายังฝากถึงเพื่อนนักลงทุนที่อยู่ระหว่างค้นหาตัวเองว่า ไม่ว่าจะลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็แล้วแต่ ไม่แนะนำให้ หวังกำไรระยะสั้น แต่อยากให้ศึกษาการลงทุนหลายๆ ทางไว้ให้มาก เมื่อเราเติบโต มีเงินเยอะขึ้น เราก็ต้องมาจัดสรรว่าเงินจะเอาไปลงในสินทรัพย์ใดได้บ้าง ขณะเดียวกันก็มองหาช่องทางทำรายได้มากขึ้นทั้ง Active และ Passive income


*ศึกษาข้อมูลนโยบายการลงทุนและผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละนโยบายได้ที่ jittawealth.com
**ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คุณธราวุฒิ เกริกกุลธร
คุณธราวุฒิ เกริกกุลธร วิศวกรคุมไลน์การผลิตผู้ถูกจริตกับกองทุนดัชนี และ Global ETF ที่สร้างผลตอบแทนให้แล้ว +31.89% ใน 2 ปี
คุณธราวุฒิ เกริกกุลธร
วิศวกร