Skip to content - ข้ามไปที่เนื้อหา

คุณธราวุฒิ เกริกกุลธร

วิศวกรคุมไลน์การผลิต

ตั้งแต่ลงทุนมาพอร์ตตกน้อยมาก น่าจะติดลบแค่ครั้งเดียว ในช่วงแรกของการลงทุน Global ETF  +31.89%

#รีวิวJittaWealth
ถ้าถูกจริตกับ Index Fund ต้องหลงรัก Global ETF

ทุกวันนี้ ใครๆ ก็อยากมีรายได้มากกว่าหนึ่งทาง แต่การมีอาชีพที่ 2 สำหรับมนุษย์เงินเดือน ไม่ใช่จะหาทำกันได้ง่ายๆ สำหรับอาชีพเสริมที่ตรงจริตและไม่ผิดต่องานที่ทำอยู่ด้วย คุณธราวุฒิ วิศวกรคุมไลน์การผลิต​ก็เป็นหนึ่งในมนุษย์เงินเดือน ที่มองหาช่องทางสร้างรายได้แหล่งที่ 2 ตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เมื่อเริ่มต้นไม่เป็น ประกอบกับไม่มีเวลามากพอ จึงเลือกที่จะไปศึกษาเรื่องการลงทุนแทน จนพบว่าการลงทุนในกองทุนดัชนีนี่แหละ คือหนทางที่ตรงจริตที่สุด และนั่นก็ทำให้ทำให้เขามาพบกับพอร์ตลูกรักอย่าง Global ETF ที่สร้างผลตอบแทนให้แล้ว +31.89% (5 ม.ค. 66-1 มี.ค. 68)

“เราอยากมีรายได้เพิ่ม ก็เริ่มศึกษาเรื่องการลงทุน ดูคลิปต่างๆ แล้วก็รู้ว่า หากลงทุนหุ้น เราจะต้องคอยติดตามดูตลอดเวลา ซึ่งไม่ใช่นิสัยของเรา เราไม่มีเวลาโฟกัสตลอด แต่ถ้าเป็นกองทุนรวม เราแค่อ่าน Fund Fact Sheet เพื่อให้รู้นโยบายการลงทุนในกองนั้นๆ และไม่ต้องติดตามตลอด เพราะมีผู้จัดการกองทุนคอยบริหารให้ ถือเป็นแนวทางที่ดี ที่ได้ออมเงินด้วย”

เปิดประตูการลงทุนด้วย Index Fund

คุณธราวุฒิเปิดประตูการลงทุนบานแรกด้วยการลงทุนใน Index Fund หรือกองทุนดัชนีของไทย นั่นก็คือกองทุนรวม SET50 ซึ่งก็พาให้เขาได้ศึกษาเรื่องการลงทุนจริงๆ จังๆ

จากกองทุนดัชนีหุ้นไทยก็ขยายไปสู่ Index Fund ในต่างประเทศ เพราะพบว่าเป็นการลงทุนที่ตรงจริตที่สุดแล้ว ไม่ใช่แค่ความสะดวกสบายในการลงทุน แต่การลงทุนใน Index Fund เท่ากับได้ลงในหุ้นตัวท็อปของประเทศนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น 50 อันดับแรก หรือ 100 อันดับแรกก็ตาม แต่ในอนาคต หุ้นเหล่านี้ก็จะมีการเติบโตตามเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ ทำให้มูลค่าการลงทุนมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


“กองทุนดัชนี แค่ฝากเงินเข้าไปให้ผู้จัดการกองทุนบริหาร แล้ว 3-6 เดือนเข้ามาดูสักครั้ง ไม่ต้องมาคอยมอนิเตอร์ คือถูกจริต ได้ลงทุนในหุ้น 100 อันดับแรกของตลาด ยังไงก็โตไปตามประเทศ และหากลงทุนระยะยาวไปสัก 5-10 ปีกองทุนดัชนีก็น่าจะเป็นบวก”


และจากการศึกษาเรื่องการลงทุน คอยฟังคลิปต่างๆ ในโลกออนไลน์ ก็ทำให้เขาได้มารู้จักกับคุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ และ Jitta Wealth จนตามไปหาข้อมูลเกี่ยวกับ Jitta Wealth และทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโบายลงทุนต่างๆ  จนได้เห็นว่านโยบายการลงทุนค่อนช้างชัดเจนและเห็นแก่ผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งในครั้งแรกคุณธราวุฒิยอมรับว่าสนใจใน Jitta Ranking แต่เงินลงทุนเริ่มต้นค่อนข้างสูง จึงเลือกที่จะเปิดพอร์ตแรกด้วย Global ETF ซึ่งก็ตรงจริตเป็นกองทุนดัชนีอย่างที่เขาต้องการด้วย


“ที่มั่นใจใน Jitta Wealth เพราะไปฟังคุณเผ่าแล้วศึกษานโยบายลงทุนต่างๆ  จนมาเปิดพอร์ต Global ETF เป็นพอร์ตแรก และ ณ วันนี้ผลตอบแทนก็เป็นที่น่าพอใจมาก เมื่อเทียบกับกองทุนรวมที่เคยลงทุนอยู่”


คุณธราวุฒิยังเชื่อในเรื่องของการใช้ AI มาบริหารพอร์ตลงทุน และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ใช้พิจารณาลงทุนกับ Jitta Wealth เพราะเขามองว่าการใช้คนหรือ Fund Manager นั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมีเล็กๆ น้อยๆ ที่มนุษย์อาจจะมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ในการตัดสินใจ อาจจะทำให้การลงทุนไม่ตรงกับ logic ที่ตั้งไว้ ขณะที่ AI ไม่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้อง จึงมีความแม่นยำในหลักการลงทุนมากกว่า

เขายังใช้ Jitta Wealth เพื่อการบริหารพอร์ต โดยมี Global ETF เป็นพอร์ตที่ตั้งใจไว้ว่าจะลงทุนระยะยาว และเติมพอร์ตบ้างเมื่อมีเงินก้อนเข้ามา แต่ล่าสุดเขาได้เปิดพอร์ต Thematic Optimize เพิ่มอีกพอร์ต โดยจะคอย DCA เข้ามาทุกเดือน เพราะมีเป้าหมายที่จะเก็บเงินก้อนนี้ไว้ ใช้เป็นเงินทุนสำหรับแผนการท่องเที่ยวในอนาคต

ประสบการณ์พอร์ตติดลบ

คุณธราวุฒิ เคยผ่านจุดที่เลวร้ายสุดมาแล้วจากพอร์ตกองทุนรวมที่ติดลบไปถึง 30-40% แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นกลัวมากนัก เพราะเลือกที่จะทำความเข้าใจในสาเหตุที่พอร์ตลดลง ประกอบกับมีการจัดสรรการเงินส่วนบุคคลไว้อย่างดี ว่าเงินที่นำมาลงทุนส่วนนี้ หากเสียหายก็จะไม่กระทบกับชีวิตการเงินมากนัก

“ตอนพอร์ตติดลบไป 30-40% ก็ตกใจ แต่ก็เข้าใจสถานการณ์ว่า เป็นช่วงของโควิดที่ตลาดตกทั่วโลก ก็เป็นธรรมดาที่พอร์ตจะลบตามตลาด และพอร์ตตัวเองก็ยังเหลือต้นทุนอยู่ ตั้ง 60% ก็เลยคิดว่า อนาคตหากเศรษฐกิจกลับมา ไม่นานไม่ช้าพอร์ตก็ต้องฟื้น จึงไม่เครียดหรือวิตกกังวลขนาดนั้น อีกอย่างเรามีการแบ่งเงินฉุกเฉินไว้แล้ว นี่คือส่วนที่เราตั้งใจนำมาลงทุน ถ้ามันติดลบเยอะขนาดไหนก็ต้องไม่กระทบกับชีวิตการเงินของเราเพราะเรามีการจัดสรรเงินไว้แล้ว”

สำหรับแนวทางการจัดการกับพอร์ตที่ติดลบนั้น มีทั้งปล่อยทิ้งไว้ และเติมเงินเข้าไปบ้าง เมื่อเห็นว่าจังหวะที่เริ่มตกน้อยลง เพราะยอมรับว่า ในช่วงที่ตลาดร่วงแรง เขาไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะตกไปถึงเมื่อไร เรียกว่ากล้าๆ กลัวๆ ก็ว่าได้

ได้พบกับพอร์ตลูกรักที่ตรงใจ

เพราะรู้ดีว่าการลงทุนต้องมีจังหวะขึ้นและลงบ้าง ด้วยเหตุนี้ ความถี่ในการดูพอร์ตของคุณธราวุฒิจึงไม่บ่อยมากนัก หรือแค่เดือนละครั้งเท่านั้น ซึ่งตั้งแต่เปิดพอร์ตกับ Jitta Wealth มาตั้งแต่ต้นปี 2566 คุณธราวุฒิพบว่าพอร์ตมีช่วงที่ติดลบไปบ้าง แต่น้อยมากเมื่อเทียบกับกองทุนอื่นๆ ที่เคยติดลบถึง 30-40%

“เราลงทุนมาหลายปี เห็นมาแล้วทั้งพอร์ตที่ลบไป 30-40% และพอร์ตที่บวก 30-40% ก็เลยเข้าใจการลงทุนมากขึ้น การลงทุนมีความเสี่ยง มีขาดทุนและกำไรได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปวิตกมาก เราต้องทำใจยอมรับ ทุกวันนี้ การลงทุนกลายเป็นนิสัยการออมไปแล้ว ทำให้เรามีวินัยการออมการลงทุนมากขึ้น”

คุณธราวุฒิยกให้ Global ETF เป็นพอร์ตลูกรัก เพราะตรงกับสไตล์ที่เขาชื่นชอบนั่นก็คือกองทุนดัชนี แถมมีการกระจายความเสี่ยงทั้งหุ้นและตราสารหนี้ให้ด้วย และที่สำคัญคือพอร์ตแทบไม่เคยติดลบ เรียกว่าเขาค่อนข้างพึงพอใจกับการลงทุนกับ Jitta Wealth และเมื่อเพื่อนหรือน้องๆ ที่โรงงานมาปรึกษาเรื่องลงทุน เขาก็จะแนะนำ Jitta Wealth เสมอ
“การลงทุนใน Global ETF ยกให้เป็นพอร์ตลูกรัก เพราะถือว่าตรงจริต และตั้งแต่ลงทุนมาพอร์ตตกน้อยมาก น่าจะแค่ครั้งเดียวที่ติดลบ ในช่วงแรกๆ ที่ลงทุนเท่านั้น”

*ศึกษาข้อมูลนโยบายการลงทุนและผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละนโยบายได้ที่ jittawealth.com

**ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

ลงทุนด้วยหลักการที่ถูกต้องกับ Jitta Wealth

ลงทุนอย่างสบายใจ กำไรอย่างยั่งยืน