คุณพิชิตพงษ์ ลาสอน
ฟรีแลนซ์งานรักษาความปลอดภัยทางทะเล

การปั้นพอร์ตให้ถึงล้าน ไม่ยาก ถ้าเรามีงาน เพราะผมมีวินัยในการเติมพอร์ตอยู่แล้ว Thematic Optimize ผลตอบแทน +47.44% (15 ธ.ค.64-23 ม.ค.68)
#รีวิวJittaWealth
ฟรีแลนซ์ปั้นเงินล้านง่ายนิดเดียว ตั้งเป้า 4 พอร์ต พอร์ตละล้าน
วิถีฟรีแลนซ์กับการลงทุนไม่ใช่เรื่องที่ห่างไกล หากมีวินัยก็สามารถปั้นเงินล้านได้ไม่ยาก เช่นเดียวกับคุณพิชิตพงษ์ ลาสอน ฟรีแลนซ์งานรักษาความปลอดภัยทางทะเล ผู้ตั้งเป้าปั้นเงินต้นให้ถึงล้านด้วยการ DCA ทุกครั้งที่มีรายได้เข้ามา และทุกวันนี้พอร์ต Thematic Optimize ของเขามีมูลค่าการลงทุนรวมเข้าใกล้หลักล้านเข้าไปทุกที ที่สำคัญสร้างผลตอบแทนแล้ว +47.44% (15 ธ.ค.64-23 ม.ค.68)
แม้จะไม่ได้มีรายได้ประจำทุกเดือน แต่ด้วยเนื้องานของคุณพิชิตพงษ์มีรายได้ที่ค่อนข้างสูงและมีระยะเวลาประจำการค่อนข้างนาน เพราะต้องออกไปอยู่กลางทะเลนานนับเดือน ช่วงที่มีรายได้เข้ามา เขาจึงต้องบริหารเงินด้วยการจัดสรรไปลงทุนทันที
เมื่อสิบกว่าปีก่อนคุณพิชิตพงษ์ก็เป็นลูกจ้างประจำ มีรายได้ในรูปเงินเดือนที่ต้องเสียภาษี เขาจึงเริ่มต้นการลงทุนตั้งแต่ช่วงนั้น จากการซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี ซึ่งเป็นกองทุนรวมหุ้นไทยที่ทำให้เขามีโอกาสได้ศึกษาเรียนรู้เรื่องกองทุน มากเข้าก็ได้รู้จักสินทรัพย์ที่กองทุนไปลงทุน จนพัฒนาไปสู่การซื้อหุ้นไทยรายตัว
และแล้วราวปี 2013-2014 เขาก็ได้ดูรายการทีวีที่คุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ซีอีโอ Jitta ได้ไปให้สัมภาษณ์ เขาจึงเริ่มติดตามและทำความรู้จักกับ Jitta.com ในช่วงนั้น และยังได้ใช้ Jitta.com เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้การลงทุน กล่าวคือเมื่อเข้าไปดูใส้ในกองทุนรวมที่ลงทุนอยู่ว่ามีการซื้อหุ้นตัวไหนบ้าง เขาก็จะนำรายชื่อหุ้นเหล่านั้นมาดูข้อมูลเพิ่มเติมใน Jitta.com ก่อนแล้วค่อยซื้อตาม แต่บทสรุปการลงทุนที่ได้ก็คือ เขาได้รับผลตอบแทนแค่เงินปันผลเป็นหลัก ส่วนผลตอบแทนในแง่ส่วนต่างราคานั้น บ้างก็กำไร บ้างก็ขาดทุน
หลังจากลงทุนแต่หุ้นไทย คุณพิชิตพงษ์ก็เริ่มสนใจหุ้นต่างประเทศ เพราะต้องการกระจายความเสี่ยงบ้าง ในช่วงปลายปี 2021 เมื่อมีสภาพคล่องที่มากพอ เขาจึงเริ่มแบ่งเงินมาลงทุนกับ Jitta Wealth โดยเลือกเปิดพอร์ตแรกคือ Thematic Optimize ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 200,000 บาท เขามองว่าการให้ AI เลือกธีมและจัดพอร์ตให้มีความสะดวกในการลงทุน เพราะเขาไม่มีเวลามากพอที่จะมาติดตามธีมต่างๆ ด้วยตัวเอง
วิธีการลงทุนของคุณพิชิตพงษ์คือการลงทุนระยะยาว เขาหมั่นเติมพอร์ตหรือ DCA เมื่อมีรายได้เข้ามา ในช่วงที่ทำงานประจำ เขาก็พยายามลงทุนให้ได้ทุกเดือน แม้จะเป็นฟรีแลนซ์มีงานเป็นบางเดือนก็ปรับไปตามสภาพการทำงานด้วยการบังคับตัวเองให้แบ่งมาลงทุนเสมอ
“ที่เชื่อเรื่องการ DCA เพราะเห็นที่คุณเผ่า โชว์สถิติมาให้ดู หากเรา DCA โอกาสขาดทุนก็จะน้อยลง และจากการลงทุนในกองทุนรวมมานานสิบกว่าปี ก็ได้เห็นเป็นจริง กองทุนรวมที่เคยซื้อไว้เมื่อผ่านไป 7-8 ปี ก็ไม่มีตัวไหนที่ติดลบเลย แม้สภาพตลาดจะเป็นขาลง แต่กองทุนของเราก็ยังเขียวอยู่ เพราะเรา DCA มาตลอด เราก็เลยเห็นผลและเชื่อ”
ในปี 2022 หลังจากที่คุณพิชิตพงษ์ เปิดพอร์ตกับ Jitta Wealth มาได้ไม่กี่เดือน ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วและรุนแรง พอร์ต Thematic Optimize โดยรวมราคาร่วงลงรุนแรง แต่คุณพิชิตพงษ์กลับรู้สึกดีใจที่หุ้นลง เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่เขายังมีงานค่อนข้างจะต่อเนื่องอยู่ นั่นหมายถึงเขายังมีโอกาสได้สะสมหุ้นในราคาที่ต่ำอยู่ต่อเนื่องนั่นเอง
“ในปีแรกที่กราฟลงผมกลับดีใจ เนื่องจากผมมองเรื่องการลงทุนระยะยาว 3-5 ปี ก็เข้าใจเรื่องการขึ้นลงเป็นธรรมดา เคยเห็นพอร์ตติดลบ 30-40% มาแล้วแต่ผมก็เฉยๆ ถือว่าเป็นโอกาส พยายามใส่เงินเข้าไป มาตอนนี้ที่รู้สึกดีใจคือช่วงที่มีงานมีรายได้ และมีเงินที่สามารถสะสมได้เรื่อยๆ เห็นเพื่อนในกลุ่ม Jitta Wealth Official บางคนยังมีพอร์ตติดลบ หรือบวกไม่เท่าผม เพราะช่วงนั้นผม DCA ต่อเนื่อง ดังนั้นก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก เมื่อมีรายได้ก็พยายามใส่เข้าไปให้ได้มากที่สุด แค่เติมไปเรื่อยๆ ต่อให้ตลาดตกก็ตาม”
คุณพิชิตพงษ์ ค่อยๆ เพิ่มพอร์ตต่อเนื่อง เวลานี้ เขามีพอร์ต Jitta Ranking หุ้นเทคโนโลยีจีน Global ETF และ Jitta Money แต่พอร์ตลูกรักก็ยังคงเป็น Thematic Optimize เพราะเขามองว่าไม่ต้องทำอะไรเยอะ แค่เติมเงินเข้าไปแล้ว AI จะเลือกธีมและปรับพอร์ตให้เอง ส่วนเขามีหน้าที่แค่ใส่เงินเท่านั้น
ถึงกระนั้นก็ตาม เมื่อมีรายได้ที่เข้ามา เขาจะพยายามสลับกัน DCA ให้กระจายทุกพอร์ต โดยมีเป้าหมายว่าอยากให้แต่ละพอร์ตที่มีอยู่ มีเงินต้นครบ 1 ล้านบาท โดยในเวลานี้พอร์ต Thematic Optimize ของเขาทั้งเงินต้นและกำไร เข้าใกล้ 1 ล้านบาทไปก่อนแล้ว แต่เขาก็จะยังคงเดินหน้า DCA อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เงินต้นไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
ทุกวันนี้เขาเชื่ออย่างหมดใจว่าความมีวินัย และความสม่ำเสมอจะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายการลงทุนได้จริง
“ลงทุนไปเรื่อย ๆ เพื่ออนาคต ไม่มีเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษ เพราะดีกว่าฝากแบงก์หรือสินทรัพย์อื่นๆ ตอนนี้ก็ยังไม่มีแผนจะเปิดกองเพิ่ม แต่ก็จะพยายามเติมเงินให้ถึงเป้าหมาย การปั้นพอร์ตให้ถึงล้าน ไม่ยาก ถ้าเรามีงาน เพราะผมมีวินัยในการเติมพอร์ตอยู่แล้ว ”
จากนักธุรกิจ สู่ลูกค้า Jitta Wealth
คุณไพจิตรมีประสบการณ์ลงทุนมานับสิบปีแล้ว แต่ในฐานะเจ้าของธุรกิจ เขาไม่ได้มีเวลาที่จะมาลงทุนหุ้นรายตัวด้วยตัวเอง พอร์ตที่เคยมีจึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนักในระยะแรกของการลงทุน เขาจึงเน้นหนักมาที่การลงทุนในกองทุนรวมแทน
จนกระทั่งช่วงที่ประเทศไทยและทั่วโลกเกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 กิจกรรมทุกอย่างต้องสะดุดหยุดชะงักงัน คุณไพจิตรย้ายมากักตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และมีเวลาว่างมากขึ้น สิ่งที่เลือกทำในเวลานั้นคือนั่งฟัง YouTube เรื่องราวการลงทุนจากกูรูหลายๆ ท่าน จนมาสะดุดที่คุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ซีอีโอ Jitta Wealth จึงเปิดเข้าไปฟัง และศึกษาแนวคิดอยู่หลาย ep. ก่อนจะตัดสินใจทดลองเปิดพอร์ตลงทุนกับ Jitta Wealth ด้วย Jitta Ranking หุ้นไทยเป็นพอร์ตแรก เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่คุ้นเคยที่สุด
คุณไพจิตรเปิดพอร์ตราวเดือนกรกฎาคม 2563 ซึ่งถือเป็นจังหวะที่ดีที่สุดสำหรับหุ้นไทยก็ว่าได้ เพราะเป็นจังหวะที่หุ้นไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วจากโควิด19 ทำให้พอร์ตลงทุนของเขาคึกคักมาก กระตุ้นให้เขาเกิดความมั่นใจที่จะเปิดพอร์ต Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ ตามมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2564
สาเหตุที่ตัดสินใจลงทุนกับ Jitta Wealth ในเวลานั้น มาจากสนใจในหลักการ Auto Rebalance ทุก 3 เดือน เพราะเคยเสียหายจากการลงทุนในกองทุนรวมที่ไม่มีการปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ
“เราไม่มีเวลาที่จะมาดูแลพอร์ตเองตลอดเวลา และเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีจากการที่พนักงานแบงก์ ขายกองทุนหรือเงินฝากต่างๆ หากลงทุนครบ 10 ล้านบาท ก็จะได้บัตรเครดิตที่มีสิทธิพิเศษทั้งหลาย แต่สุดท้ายกองทุนที่ขายมาเหล่านั้นเจ๊งหมดเลย เพราะไม่มีการ Rebalance ให้ ต้องคอยทำตามผู้จัดการกองทุนอย่างเดียว ทำให้ไม่ว่าจะกี่บัตรที่ได้มาก็ไม่ประสบความสำเร็จสักบัตร เรียกว่าเจ็บมาเยอะ แต่ที่ได้ฟังคุณเผ่าเคยบอกว่าจะมีการ Auto Rebalance ทุก 3 เดือน เอาเข้าจริง พอมาลงทุนและ DCA อย่างต่อเนื่อง ทำให้รอบการปรับพอร์ตบ่อยขึ้น”
DCA เคล็ดไม่ลับดันผลตอบแทน +114.82%
เคล็ดลับการลงทุนของคุณไพจิตร ที่เน้นการ DCA อย่างต่อเนื่อง ในจังหวะที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง นอกจาก Jitta Ranking หุ้นไทยและหุ้นสหรัฐฯ ที่คุณไพจิตร DCA บ่อยที่สุดจนสร้างผลตอบแทนที่ชัดเจนแล้ว เขายังได้พิสูจน์ผลลัพธ์ของการ DCA ที่ชัดเจนมากจากพอร์ต Global ETF ที่เขาเปิดไว้ 2 พอร์ต โดยพอร์ตแรกที่มีการ DCA อย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเวลาลงทุนกว่า 4 ปี ผลตอบแทนที่ได้อยู่ที่ +35.78% (2 พ.ย. 63-2 ต.ค. 67) เทียบกับพอร์ต Global ETF ที่เปิดตามหลังมาไม่นาน แต่ไม่มีการ DCA เลย กลับสร้างผลตอบแทนได้เพียง +16.47% (4 มี.ค. 64-2 ต.ค. 67) น้อยกว่าเท่าตัวทีเดียว ยิ่งตอกย้ำว่า DCA สร้างผลตอบแทนได้เหนือกว่าจริงๆ
“ผมเชื่อมั่นใน DCA ว่าจะเอาชนะตลาดได้ ไม่ใช่แค่การศึกษาจาก Jitta Wealth เท่านั้น แต่ก็ได้ศึกษามาจากหลายที่ ฟังกูรูมาก็หลายท่าน เราก็มั่นใจว่าหาก DCA ไปแล้ว ต่อให้หุ้นขาขึ้นเราก็จะได้ต้นทุนที่ถูกลง เฉลี่ยแล้วก็ยังดีกว่าตลาดแน่นอน ซึ่งผมได้ลอง DCA มาทุกปี ทุกเดือน ก็เห็นว่าเป็นทางที่ใช่”
ในทางกลับกันพอร์ตที่คุณไพจิตรลงทุนไว้อีกหลายพอร์ต แต่ไม่ค่อยได้ DCA ก็มี และแสดงผลที่ชัดเจนเช่นกัน นั่นคือผลตอบแทนไม่ได้ประทับใจนัก เขายกตัวอย่าง Jitta Ranking หุ้นเวียดนาม ที่เป็นสินทรัพย์ที่ค่อนข้างผันผวนสูง ที่เขาเติมพอร์ตเข้าไปบ้างแต่ไม่บ่อยนัก รวมถึง Thematic DIY ที่ได้เปิดไว้หลายกองและแต่ละกองก็มีธีมย่อยที่อยู่ไส้ในอีกหลายธีมทำให้เขาไม่มีเวลาในการติดตามข่าวสาร เพื่อหาจังหวะในการ DCA มากนัก
แม้ว่ากลยุทธ์การ DCA ของคุณไพจิตร จะมีความต่อเนื่องทุกเดือนแต่ก็ไม่ได้กำหนดตายตัวชัดเจน เพราะต้องการติดตามภาวะตลาดก่อนตัดสินใจลงทุน โดยจะอาศัยจังหวะที่หุ้นลงค่อยเติมพอร์ต แต่หากในช่วงนั้นหุ้นยังอยู่ในช่วงขาขึ้นก็อาจจะเลื่อนการ DCA ไปเป็นเดือนถัดไป แล้วชดเชยด้วยการเติมพอร์ตไป 2 ครั้ง ขณะเดียวกันหากในเดือนนั้นๆ หุ้นลงแรง เขาก็อาจจะเติมพอร์ตมากกว่า 1 ครั้งก็ได้
“การเติมพอร์ตจะทำตอนหุ้นลงเท่านั้น ยิ่งตลาดหุ้นลงเยอะ ยิ่ง DCA จะไม่เติมเงินตอนหุ้นขึ้น เพราะเจ็บมาเยอะ คนส่วนใหญ่จะลงทุนเพิ่มตอนหุ้นกำลังขาขึ้น เสร็จแล้วก็จะไปติดดอย ดังนั้นถ้าเดือนไหนหุ้นสหรัฐฯ ลงเยอะก็จะ DCA ไป 2-3 รอบ เบิ้ลลงไปเลย เพราะมั่นใจว่าอย่างไรแล้วสักวันหนึ่งรอบ cycle จะต้องกลับมาแน่นอน หรืออย่างหุ้นไทยปีนี้ที่ปรับตัวลดลงมามากตั้งแต่ต้นปี เราก็จะเข้าไปเติมเงินบ่อยหน่อย”
เก็บให้ครบทั้งพอร์ตลูกรักและพอร์ตเกษียณ
เป้าหมายการลงทุนของคุณไพจิตรคือการสะสมเงินออมไปเรื่อยๆ ด้วยการ DCA ที่เขาพิสูจน์แล้วว่าจะช่วยสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าตลาด แต่ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจที่บางครั้งอาจะมีความจำเป็นต้องใช้เงิน เขาจึงมีการขายพอร์ตออกไปบ้างเพื่อนำเงินไปใช้หมุนเวียนทางธุรกิจ แต่ก็จะนำเงินกลับมาเติมพอร์ตใหม่ทุกครั้ง
“เราจะจับจังหวะเฉพาะตอนซื้อหุ้น แต่ตอนขายก็ขายตามความจำเป็นที่ต้องเอาเงินไปหมุน เดือนไหนที่ขายออก ก็จะมีเติมพอร์ตเข้ามาด้วยเสมอ”
สำหรับพอร์ตที่มีอยู่รวมๆ กว่าสิบพอร์ตนั้น คุณไพจิตรยกให้ Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ เป็นพอร์ตลูกรัก ด้วยผลตอบแทนที่โดดเด่นชัดเจน แต่หากเป็นพอร์ตสำหรับเกษียณเขายังมองว่า Global ETF น่าจะเหมาะสมที่สุด ด้วยเสถียรภาพในการเติบโตของพอร์ตที่ทำให้เขารู้สึกว่าสามารถลงทุนได้อย่างสบายใจ


*ศึกษาข้อมูลนโยบายการลงทุนและผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละนโยบายได้ที่ jittawealth.com
**ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คุณพิชิตพงษ์ ลาสอน
ฟรีแลนซ์งานรักษาความปลอดภัยทางทะเล ที่ตั้งเป้าปั้นเงินต้นให้ถึงล้านด้วยการ DCA ในพอร์ต Thematic Optimize +47.44% (15 ธ.ค.64-23 ม.ค.68)
คุณพิชิตพงษ์ ลาสอน
ฟรีแลนซ์
คุณขนิษฐา ชลคดีดำรงกุล
ผู้ประกอบการธุรกิจรีสอร์ต ที่เริ่มลงทุนตั้งแต่ยังเรียนหนังสือ ผ่านประสบการณ์ผิดหวังในการลงทุนมาแล้ว ก่อนจะมาประทับใจกับพอร์ต Global ETF ที่ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยเติบโตอย่างต่อเนื่องล่าสุด +49.61% (22 ต.ค. 63-31.ก.ค.68)
คุณขนิษฐา ชลคดีดำรงกุล
ผู้ประกอบการธุรกิจรีสอร์ต
คุณทิพย์อาภรณ์ ประภัสสร
พยาบาลสาวผู้เชื่อมั่นใน ETF คือเส้นทางการลงทุนที่เหมาะกับตัวเอง กับพอร์ตลูกรัก Thematic DIY ผลตอบแทน +12.5%
คุณทิพย์อาภรณ์ ประภัสสร
พยาบาล
คุณนิพิฐพนธ์ เทพามงคล
นักกายภาพบำบัดวิชาชีพ ที่ DCA ใน Thematic Optimize +32.57% (3 ก.พ. 65 – 21 ธ.ค. 67)
คุณนิพิฐพนธ์ เทพามงคล
นักกายภาพบำบัดวิชาชีพ
คุณเด่นไวทย์ ผ่องวุฒิพงศ์
คุณเด่นไวทย์ ผ่องวุฒิพงศ์ เจ้าของร้านทองในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงทุนใน Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ สร้างผลตอบแทนได้สูงถึง 49.79%
คุณเด่นไวทย์ ผ่องวุฒิพงศ์
เจ้าของร้านทองในจังหวัดสุราษฎร์ฯ